หา “กำไร” ให้ตัวเอง (กำไรชีวิต)

หลายคนรู้จักคำว่า “กำไรชีวิต” โดยส่วนใหญ่การได้มีหรือได้รับกำไรชีวิต ย่อมเป็นไปในเชิงบวก เป็นสิ่งที่ทำให้รู้สึกดีมีความสุข หากกล่าวถึงคำว่า “กำไร” ย่อมต้องเกิดจากการลงทุน แต่กำไรชีวิตของเราหลายครั้ง มันก็ไม่ต้องลงทุน  แถมกลายเป็นว่ามักเกิดบนความไม่ตั้งใจ ได้มาโดยบังเอิญ อะไรทำนองนั้นอีกต่างหาก

ถ้าลองคิดดูเรื่องที่เรามองว่าเป็นกำไรชีวิตนั้น ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้หายากนัก แต่เรากลับไม่ค่อยหากันเท่าไร ทั้งที่มันคือ “ความสุข” ประการหนึ่ง เมื่อมันเกิดขึ้น ยิ่งได้ทบทวนอาจรู้สึกว่า น่าแปลกที่คนเราอยากมีความสุข แล้วทำไมต้องรอให้มันบังเอิญ รอให้มันเกิดขึ้นเอง เช่น กำไรชีวิตที่ได้มาเจอสิ่งนี้ ก็แสดงว่าสิ่งนี้คือสิ่งที่เราต้องการ หรือกำไรชีวิตที่ได้มาที่นี่ ก็แสดงว่าที่นี่คือที่ที่เราพอใจ.. มิใช่หรือ?

ในเมื่อกำไรชีวิตแต่ละครั้งที่เราพบเจอ คือความสุข ทำไมเราไม่ตั้งเป้าหมายหาสิ่งเหล่านั้นให้กับตัวเองทุกวัน หรือบ่อย ๆ เพื่อเราจะได้มีความสุขโดยไม่ต้องรอความบังเอิญ หรือเลือกลงทุนกับมัน โดยคำว่าลงทุนในที่นี้อาจหมายถึงการให้เวลาและการลงมือทำ เพื่อให้ได้ “กำไร” ตรงนั้นมา คล้ายกับตัวอย่างก่อนหน้านี้ หากเป็นสถานที่ทำไมเราไม่เลือกไปที่เหล่านั้น ลงทุนเดินทางไปในสถานที่ที่เราชอบเลยโดยตรง มากกว่ารอความบังเอิญในรูปแบบ “กำไรชีวิต”

ส่วนหนึ่งอาจเพราะหลายคนไม่เคยทบทวนว่า ความสุขของตัวเองคืออะไร ความพึงพอใจของตัวเองอยู่ที่ไหน จึงใช้เวลาไปกับสิ่งที่ไม่ได้สร้างสุขแท้จริง บ้างก็หากำไรแต่เพียงเรื่องเงิน บ้างก็หาแต่เรื่องใส่ตัว บ้างก็อ้างว่ามีภาระมากมาย ทั้งที่เวลากำไรชีวิตเกิดขึ้น มันไม่ได้เกี่ยวกับเงินหรือโอกาสเลย แต่ที่ผ่านมาเราแบกภาระอื่น หรือสนใจสิ่งอื่นมากไปเอง จนบดบังโอกาสที่จะได้พบเจอกำไร ส่วนนั้น

มีบางคนอาจคิดหรือรู้สึกว่าคนเรา “เกิดมาเพื่อใช้กรรม” และบางคนก็ไม่แน่ใจว่าคนเรา “เกิดมาเพื่ออะไร” แต่ถ้าเป็นช่วงเวลาที่ “มีความสุข” อยู่ คำถามจะไม่เกิดขึ้นเลยกับคนเหล่านี้ นี่สะท้อนว่าถ้าเรามี “กำไรชีวิต” ที่รวมแล้วหมายถึงมีความสุขอยู่ตลอด เราก็จะไม่อยากหรือไม่คิดสงสัยหรอกว่า “ชีวิตมีความหมายอะไร?”

ย้อนไปตรงที่ ความจริงแล้ว “กำไร” ย่อมเกิดจากการลงทุน ดังนั้นเรื่องนี้ก็ควรลองทบทวนดูว่า ณ เวลานี้ชีวิตเรากำลัง “ลงทุน” กับสิ่งใด มันคุ้มค่าแน่หรือ และต้นทุนชีวิตจะมีมาก/น้อย มันก็ไม่เกี่ยวกับเรื่องกำไรชีวิตเลย ถ้าเข้าใจก็คงคิดได้ ณ ตอนนี้ว่า ทำไมไม่หา “กำไร” ให้ตัวเอง

ขอขอบคุณบทความดีๆจาก Sirichaiwatt