top of page
  • Facebook
ค้นหา

Owned Media คืออะไร ทำไมทุกธุรกิจจำเป็นต้องทำ?

  • psrwbiz
  • 25 มิ.ย. 2567
  • ยาว 2 นาที

การสื่อสารเป็นหนึ่งในส่วนประสมทางการตลาดที่สำคัญสำหรับทุกธุรกิจ ธุรกิจจำเป็นต้องสื่อสารการตลาดทั้งเพื่อโฆษณาสินค้าและบริการ, ประชาสัมพันธ์, ส่งเสริมการขาย หรือขายตรงผ่านพนักงานขาย เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจมีการรับรู้ และเกิดความต้องการสินค้าและบริการ เติมเต็มความต้องการหรือแก้ปัญหาที่พวกเขากำลังประสบอยู่


แต่ในวันที่จำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต จำนวนผู้ใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์ (Social Network) จำนวนสมาร์ตโฟนที่แพร่หลายเพิ่มมากขึ้นเรื่อย สื่อดั้งเดิม อาทิ โทรทัศน์, วิทยุ, หนังสือพิมพ์, นิตยสาร ทำให้การสื่อสารเนื้อหาของแบรนด์ผ่านสื่อมวลชนไม่มีประสิทธิภาพเหมือนในอดีต

 

สื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ที่ดูเหมือนเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับใช้เผยแพร่เนื้อหาของแบรนด์ แต่การเปลี่ยน Algorithm ของระบบอยู่ตลอดเวลาทำให้การเผยแพร่เนื้อหาไม่สามารถการันตีได้ว่าการเผยแพร่จะมีประสิทธิภาพเหมือนเดิมทุกครั้ง แต่กลับสร้างผลกระทบโดยตรงต่อชื่อเสียงของแบรนด์ที่สร้างมาอย่างยากลำบากแค่เพียงไม่กี่วินาทีและหลีกเลี่ยงไม่ได้


พร้อมๆ กับการเติบโตของจำนวนแพลตฟอร์มและช่องทางออนไลน์ต่างๆ อาทิ สื่อวิดีโอสตรีมมิ่ง, มิวสิคสตรีมมิ่ง, เกมส์สตรีมมิ่ง, อีบุ๊คสโตร์ เป็นต้น นั่นหมายความว่าเมื่อผู้บริโภคเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้พวกเขาก็จะมีทางเลือกเพิ่มขึ้นแบบไม่จำกัด

 

ผู้บริโภคของคุณบนโลกออนไลน์เคลื่อนที่ได้อย่างอิสระและไม่หยุดนิ่ง นักการตลาดออนไลน์ทำได้เพียงคาดเดา "เส้นทางการตัดสินใจของผู้ซื้อ" เท่านั้น ผลที่เกิดขึ้นก็คือ หากธุรกิจของคุณส่งมอบเนื้อหาและสื่อของแบรนด์ที่ไม่สอดคล้องกับความสนใจของพวกเขาก็จะถูกละเลยหรือเขี่ยเนื้อหานั้นทิ้งทันทีด้วยปลายนิ้วของพวกเขา


ดังนั้น นักการตลาดดิจิทัลส่วนใหญ่จะทราบดีว่า ผู้บริโภคออนไลน์นั้นมีความเป็น "ปัจเจก" พวกเขามีบทบาทเป็น "ผู้เสนอซื้อ" ค้นหาข้อมูล เลือกซื้อสินค้าและบริการได้ด้วยตัวเองโดยไม่ต้องรอธุรกิจเข้ามาเป็น "ผู้เสนอขาย" อีกต่อไป ทำให้การสร้าง Owned Media ในรูปแบบสื่อดิจิทัลจึงมีความจำเป็นเพิ่มมากขึ้น

รู้จักสื่อดิจิทัลแต่ละประเภทให้ดีขึ้น

ก่อนที่จะเข้าเนื้อหาหลัก ผมอยากให้คำจำกัดความของ "สื่อดิจิทัล" ว่าคือช่องทางในการนำพาเนื้อหาดิจิทัลใดๆ จากผู้ส่งสารไปยังผู้รับสารโดยอาศัยอุปกรณ์ดิจิทัล (คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ, โน๊ตบุ๊ค, แท็บเล็ต, สมาร์ตโฟน) เป็นสื่อกลางในการแสดงผล และหากแบ่งสื่อดิจิทัลตามความเป็นเจ้าของเราจะแบ่งสื่อดิจิทัลได้ 3 ชนิด ได้แก่

  1. Owned Media หรือ สื่อที่ธุรกิจหรือแบรนด์เป็นเจ้าของ ผลิตและการเผยแพร่เนื้อหาในช่องทางของตัวเอง อาทิ สิ่งพิมพ์ดิจิทัล, เว็บไซต์ธุรกิจ เป็นต้น

  2. Paid Media หรือ สื่อที่บุคคล ธุรกิจ หรือแพลตฟอร์มอื่นเป็นเจ้าของ หากธุรกิจหรือแบรนด์ใดต้องการเผยแพร่เนื้อหาผ่านช่องทางนี้อาจจะต้องชำระค่าใช้จ่าย อาทิ โฆษณาบนโซเชียลมีเดีย, โฆษณาบน Google, แบนเนอร์บนเว็บไซต์, โฆษณาทางหนังสือพิมพ์ รวมทั้งการใช้บล็อกเกอร์, ยูทูบเบอร์ ให้พูดถึงแบรนด์ เป็นต้น

  3. Earned Media หรือ สื่อที่บุคคลอื่นเป็นเจ้าของ พวกเขายินดีผลิตและเผยแพร่เนื้อหาให้กับธุรกิจโดยสมัครใจ อาทิ ผู้ชมหรือผู้สนใจที่เข้ามารีวิว, โพสต์ถึงสินค้าและบริการ แนะนำหรือบอกต่อกับเพื่อนหรือเครือข่ายของพวกเขา เป็นต้น

 

ด้วยวิธีการแบ่งสื่อดิจิทัลแบบนี้จะทำให้คุณประเมินได้ว่าสื่อทางการตลาดแบบใดเป็นทรัพย์สินในปัจจุบันของคุณหรือสื่อแบบใดที่สร้างโอกาสทางการตลาดให้กับธุรกิจของคุณได้ในอนาคต! โปรดตรวจสอบให้แน่ใจว่า ความพยายามสื่อสารการตลาดทั้งหมดของคุณสารมารถวัดผลการดำเนินงานได้อย่างเป็นรูปธรรม เพื่อที่จะบอกได้ว่าสื่อประเภทใดทำงานให้กับคุณได้ดีที่สุดและสื่อประเภทใดที่ควรได้รับการปรับปรุง

Owned Media คืออะไร?

Owned Media หรือ สื่อที่แบรนด์เป็นเจ้าของ ใช้สำหรับการสื่อสารโดยตรงกับกลุ่มเป้าหมาย อาทิ สมาชิก ลูกค้าประจำ ผู้มุ่งหวัง พนักงาน หุ้นส่วน โดยมีเป้าหมายทั้งเพื่อรักษาความสัมพันธ์ ให้ความรู้ ให้ข้อมูลข่าวสาร อาทิ คู่มือการใช้งาน อัปเดตคุณสมบัติหรือโซลูชันสำคัญของสินค้าและบริการใหม่ๆ เป็นต้น รวมทั้งทำให้กลุ่มเป้าหมายตระหนักได้ถึงความเชี่ยวชาญของธุรกิจ เสริมสร้างแบรนด์ให้น่าเชื่อถือได้อีกด้วย


การที่แบรนด์ผลิตและเผยแพร่เนื้อหาผ่านสื่อของตัวเอง มีจุดเด่นคือ ได้สื่อสารตรงกับกลุ่มเป้าหมายและมีฐานข้อมูลที่มีคุณภาพไว้ใช้สำหรับแบ่งกลุ่มลูกค้าตามการมีส่วนร่วมกับเนื้อหารูปแบบต่างๆ และตอบสนองความต้องการด้วยเนื้อหาที่มีคุณภาพให้ทำได้อย่างเหมาะสมตลอดเส้นทางการตัดสินใจซื้อ ตลอดอายุของการเป็นลูกค้าหรือตลอดการมีส่วนร่วมกับธุรกิจ

ทำไมต้องสร้าง Owned Media

แม้ Owned Media จะสำคัญกับทุกธุรกิจ แต่การที่ธุรกิจต่างๆ มีโมเดลการดำเนินธุรกิจที่ต่างกัน กลยุทธ์ในการสื่อสารก็ย่อมแตกต่างกันไปด้วย อาทิ

 
รูปแบบธุรกิจ B2C (Business to Consumer)
  • กลุ่มเป้าหมายคือ ผู้ซื้อ (Buyer) หรือ ผู้ใช้คนสุดท้าย (End User)

  • ธุรกิจ B2C ต้องการกลยุทธ์สื่อสารเพื่อดึงดูด (Pull Strategy) เร่งให้ผู้บริโภคหรือผู้ซื้อเกิดการตัดสินใจซื้อสินค้าหรือใช้บริการ นั่นหมายความว่า ธุรกิจจะต้องใช้งบประมาณกับการสร้างสื่อดิจิทัลแบบ Paid Media เพื่อใช้เผยแพร่เนื้อหาโฆษณา การส่งเสริมการขาย

  • ธุรกิจ B2C ให้ความสำคัญกับกลยุทธ์สื่อสารแบบผลัก (Push Strategy) เป็นลำดับที่รองลงไป อาทิ การสร้างความน่าเชื่อถือ สร้างแบรนด์หรือประชาสัมพันธ์ธุรกิจ เพราะในความเป็นจริงผู้บริโภคมักไม่ค่อยสนใจรูปแบบเนื้อหาที่มาจากแบรนด์โดยตรง

 

รูปแบบธุรกิจ B2B (Business to Business) 
  • กลุ่มเป้าหมายคือ พ่อค้าคนกลาง, ร้านค้าปลีก หรือตัวแทนจำหน่าย 

  • ธุรกิจ B2B ต้องการกลยุทธ์สื่อสารแบบผลัก (Push Strategy) มุ่งโน้มน้าวใจ สร้างความเชื่อมั่น สร้างความน่าเชื่อถือเพื่อให้จดจำธุรกิจได้ในฐานะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม มีโซลูชันที่ช่วยตอบสนองความต้องการของ End User นั่นหมายความว่า ธุรกิจจะต้องทำสื่อแบบ Owned Media อย่างสม่ำเสมอเพื่อส่งมอบเนื้อหาต่างๆ เพื่อสะท้อนคุณค่าของธุรกิจ เพิ่มความเชื่อมั่นให้กับผู้ซื้อในอนาคตของคุณ เนื้อหาต่างๆ ยังถูกค้นพบได้ง่ายด้วยการปรับแต่ง SEO

  • ธุรกิจ B2B ไม่ค่อยนิยมกลยุทธ์สื่อสารเพื่อดึงดูด (Pull Strategy) เพราะการดึงดูดให้เกิดการตัดสินใจซื้อด้วยโฆษณาหรือสื่อดิจิทัลแบบ Paid Media ไม่ได้ทำกับกลุ่มเป้าหมายหรือผู้มีอำนาจการตัดสินใจซื้อโดยตรง และมีระบบการซื้อขายที่ซับซ้อนหลายขั้นตอน

ในกรณีที่คุณทำธุรกิจเป็นโรงงานรับผลิตครีม (OEM) เนื้อหาหลักที่คุณควรทำและมุ่งเน้น "ไม่ใช่" การเสนอขายสินค้ากับผู้บริโภค แต่จำเป็นต้องสื่อสารกับผู้ที่ต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจขายครีมตระหนักได้ว่า โรงงานของคุณมีศักยภาพที่ผลิตสินค้าได้มาตรฐาน โดดเด่นกว่าโรงงานอื่นๆ ในอุตสาหกรรมนี้ มีพัฒนาการ มีผลการวิจัย มีเทคโนโลยี หรือมีบริการที่พร้อมช่วยเหลือให้พวกเขาบรรลุเป้าหมายในการทำธุรกิจ


คุณจำเป็นต้องทำให้พวกเขามองเห็น "โอกาส" ที่จะประสบความสำเร็จถ้าได้ใช้บริการจากโรงงานของคุณ แน่นอนว่าลูกค้าต้องการเห็นเนื้อหาเชิงลึก ความโดดเด่นของโรงงาน เทคโนโลยี การเติบโตของบริษัท การเปรียบเทียบกับคู่แข่ง ผลงานที่ผ่านมาของคุณ ซึ่งการนำเสนอเนื้อหาลักษณะนี้หากทำผ่านสื่อที่แบรนด์เป็นเจ้าของหรือ Owned Media จะมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากกว่าการนำเสนอผ่าน Paid Media

วิธีประยุกต์ใช้ Owned Media

ในวันที่ผู้บริโภคของคุณสามารถค้นพบเนื้อหาผ่านระบบอินเทอร์เน็ตเพื่อนำมาเติมเต็มความต้องการของพวกเขาได้ด้วยตัวเอง เครื่องมือค้นหาอัจฉริยะอย่าง Google และ Bing คือตัวแปรหลักของเรื่องนี้ พิจารณาได้จากจำนวนผู้นิยมใช้เครื่องมือค้นหาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้พฤติกรรมการรับรู้เนื้อหาจึงไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เพราะผู้บริโภคจะรับรู้เฉพาะที่ต้องการหรือตามที่ค้นพบเท่านั้น


หากแบรนด์ของคุณทำ Owned Media นั่นหมายความว่า ผู้บริโภคของคุณก็จะมีโอกาสค้นพบเนื้อหาที่คุณสร้างเตรียมไว้เช่นกัน

 

Owned Media ในรูปแบบ "สิ่งพิมพ์ดิจิทัล" จะช่วยให้แบรนด์เผยแพร่เนื้อหาได้โดยตรงกับผู้ที่สนใจ หรือผู้มุ่งหวังได้โดยไม่ต้องกังวลกับ Algorithm ใดๆ และเก็บรวบรวมข้อมูลการมีส่วนร่วมรูปแบบต่างๆ และวัดประสิทธิผลของแต่ละเนื้อหาด้วยตัวเลขที่เกิดขึ้นจริง 

 

ยกตัวอย่าง ธุรกิจแบบ B2B สามารถเผยแพร่ สิ่งพิมพ์ดิจิทัล ให้กับผู้ที่สนใจและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง อาทิ ตัวแทนจำหน่าย ร้านค้าปลีก พนักงานขาย หรือแม้แต่ฝ่ายจัดซื้อของบริษัทคู่ค้าได้อย่างรวดเร็ว ด้วยเนื้อหาที่มีเป้าหมายให้การสื่อสารเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ในฐานะของผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมของคุณ มุ่งโน้มน้าว และสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์


Owned Media ช่วยให้กลยุทธ์ประชาสัมพันธ์เชิงรุกของธุรกิจ B2B มีประสิทธิภาพ ใช้เนื้อหาแบบอินเทอร์แอคทีฟมุ่งดึงดูดผู้บริโภคให้มีส่วนร่วมหรือมีปฏิสัมพันธ์กับเนื้อหา เพื่อสร้างการรับรู้ในมุมกว้างและลึก ซึ่งวันนี้แบรนด์ของคุณสามารถสร้างสื่อดิจิทัลและเผยแพร่สื่อได้เอง อาทิ Digital Annual Report, Digital Newsletter, Company Profile หรือ Consumer Magazine เป็นต้น


Owned Media ช่วยให้ธุรกิจแบบ B2C ดึงดูดผู้มุ่งหวังในรูปแบบ Product Lookbook หรือ Digital Brochure เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการ เพื่อผลักดันให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้อย่างรวดเร็ว หรือใช้สื่อสารกับสมาชิกหรือลูกค้าตัวจริงได้อย่างต่อเนื่องในรูปแบบ Digital Newsletter, Digital Catalogue ส่งมอบคอเลคชันใหม่หรือแจ้งข่าวสารของสินค้าและบริการให้กับลูกค้าคนสำคัญให้รับรู้ก่อนใคร กระตุ้นให้การซื้อขายเกิดขึ้นได้ทันที

บทสรุป

เป็นเรื่องจริงที่ว่า กลุ่มเป้าหมายของคุณจะไม่กล้าตัดสินใจซื้อหากพวกเขาไม่จักธุรกิจของคุณ นั่นเป็นเหตุผลให้งานแรกที่ธุรกิจของคุณต้องทำคือ การแนะนำแบรนด์ใหม่เข้าสู่การตลาด สร้างการจดจำชื่อบริษัท โลโก้ ข้อมูลสินค้าหรือบริการที่คุณต้องการนำเสนอ เผยแพร่ให้ครอบคลุมทุกจุดสัมผัสที่ผู้บริโภคเป้าหมายจะได้พบกับธุรกิจของคุณ

 

แน่นอนว่าสินค้าและบริการของคุณไม่ใช่เจ้าเดียวในตลาด จุดประสงค์ของการสร้างสื่อในรูปแบบ Owned Media ก็มีไว้เพื่อช่วยให้คุณหลุดจากการแข่งขันนี้ ทำให้ผู้บริโภคของคุณจะสามารถแยกธุรกิจของคุณออกจากคู่แข่งได้ อย่างไรก็ตาม คุณต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่า เนื้อหาที่เผยแพร่ผ่าน Owned Media ของคุณนั้นเป็นจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ มีคุณค่าที่ช่วยเติมเต็มความต้องการที่แท้จริงได้ และต้องแน่ใจว่าคุณค่าที่นำเสนอช่วยทำให้แบรนด์ของคุณแตกต่างจากคู่แข่งจริงๆ

หากคุณต้องการเติมเต็มกลยุทธ์การสื่อสารดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพ และไม่ว่าคุณจะต้องการเผยแพร่คุณค่าผ่านสื่อดิจิทัลรูปแบบใดก็ตาม หรือต้องการแค่คำแนะนำบางอย่าง เราพร้อมและมีความสุขที่จะช่วย


ขอขอบคุณบทความดีๆจาก gramdigital

 
 
 

Comments


Shelfy Logo

ShelfyStore โรงงานผลิตชั้นวางของครบวงจร

ชั้นวางสินค้าราคาโรงงาน ขายส่ง ชั้นวางของ ชั้นวางของอเนกประสงค์ ชั้นเก็บของ แร็ควางของ ชั้นวางของสําเร็จรูปshelf สินค้า ชั้นวางของในโกดัง ชั้นวางของหน้าร้าน รวมถึง ชั้นวางของในบ้าน ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน มาพร้อมบริการรับทำและออกแบบชั้นวางของตามสั่ง พร้อมบริการติดตั้งฟรี ในเขต กทม. และปริมณฑล

Group 1000004476.png
Group 1000004477.png
Group 1000004478.png
Group 1000004479.png

สาขารัชดา (สาขาหลัก)

90/1 ถนนรัชดาภิเษก แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ 10310

โทร :

สาขาบางบอน

40 เอกชัย 25 หมู่ 10 แขวงบางขุนเทียน เขตบางบอน กรุงเทพฯ 10150

โทร :

สาขารังสิต

223 ถนนพหลโยธิน (ปากซอยพหลโยธิน 111 ใกล้แม็คโครังสิต) ตำบลประชาธิปัตย์ อำเภอธัญบุรี จังหวัดปทุมธานี 12130

โทร :

สาขาศรีนครินทร์

417/1-2 ถนนศรีนครินทร์  ตำบลสำโรงเหนือ, อำเภอเมืองสมุทรปราการ, สมุทรปราการ 10270

โทร :

bottom of page